บทที่3 หมอกจางๆจากด้านหลัง
พักทานอาหารที่แสนจะวุ่นวายโรงเรียนแห่งนี้ ไม่น่าเชื่อว่าแถวจะยาวได้ขนาดนี้ ทำให้นายภูมิ วิทยา และอิศเรนทร์ ต้องทนเข้าแถวต่อไป แม้ไม่อยากก็ตาม
“ทำไมมันยาวอย่างงี้เนี่ย” คนขี้หงุดหงิดพูดอย่างอารมณ์เสียสุดๆเมื่อเห็นแถวยาวเหยียด
“ภูมิแกอย่าบ่นได้ไหม มันช่วยไม่ได้นี่หว่า คนมันเยอะ แถวก็ต้องยาวเป็นธรรมดา” นายแว่นคนที่ขยันอธิบายตอบให้คนฟังเคืองหูเล่น
“เอาน่าพวกนายน่ะ เงียบบ้างก็ดีนะ เงียบเหมือนฉันไง” อิศเรนทร์คนสุดแสนจะขี้เล่น (?) พูดขึ้นมาทำให้ทั้งสองคนหันขวับมาด่า
“แกน่ะแหละเงียบไปเลย” ทั้งสองประสานเสียงกันอย่างเหลือเชื่อ
ผ่านไปนานแสนนานกับการทานข้าว พวกเขาก็ได้ไปหมกตัวอยู่ในห้องสมุด เพื่อทำรายงานสังคมของยัยอาจารย์จู้จี้ ขี้บ่น จอมบ้ายอ แถมให้การบ้านเยอะคนนั้น
“เฮ้ย ทำเรื่องไรนะ...วิทแกอย่ามัวแต่ยุ่งกับเครื่องบ้าๆนั่นได้ไหม” ภูมิพูดด่าอย่างลืมว่าอยู่ในห้องสมุด ใส่นายแว่นที่เอาแต่จ้องเครื่องนั้นราวกับเป็นของเล่นชิ้นใหม่เลยโดนบรรณารักษ์หันมามองหน้าแนวว่า เงียบไปเลยเอ็ง
“เอาน่า เงียบๆหน่อยเดี๋ยวก็โดนไล่ออกไปอีกหรอก” อิศเรนทร์ พูดกระซิบอย่างล้อเลียน จนคนขี้หงุดหงิดยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่แต่ก็ต้องอดทนไว้ไม่งั้นโดนเด้งออกจากห้องสมุดเป็นแน่แท้
“เออๆก็ได้ วิทนายดูไอ้เครื่องบ้านั่นเสร็จแล้ว มาช่วยกันทำบ้างนะเฟ้ย” ภูมิพูดเบาๆอย่างกลัวโดนบรรณารักษ์เด้งออกจากห้องสมุดอย่างเสียไม่ได้
วิทยา ชัยชนะกุล มองเครื่องประหลาดด้วยแววตาเหมือนเด็กๆที่ได้ของเล่นชิ้นใหม่ ลวดลายประหลาดใต้ฐานเครื่อง ที่แสนจะคุ้นตาเหมือนกับเคยเห็นที่ไหนมาก่อนแต่นึกเท่าไรก็นึกไม่ออก จึงจำใจต้องวางของที่เขาคิดว่าเป็นเครื่องเคาะสัญญาณเวลาลง
“นี่ๆ” ภูมิสะกิดเรียกวิทยาเบา “อักษรอะไรนะที่อียิปต์ใช้อ่ะ อะไรนะ...ที่อาจารย์จู้จี้บอกว่าเป็นอักษรแรกของโลกอ่ะ”
“ไม่เห็นยากเลยก็...” วิทยาตกใจเบิกตาโพลงเหมือนนึกอะไรได้ “ใช่แล้ว!!!”
“ชู่วววววววว!!!!” อิศเรนทร์ทำท่าเตือนเพื่อนให้เงียบแต่ตอนนี้วิทยาไม่สนใจแล้ว
“พวกนายฉันกลับบ้านก่อนนะ” วิทยารีบร้อนจะเก็บหนังสือกลับบ้านทั้งๆที่ตอนนี้พึ่งจะเที่ยงเอง วิชาตอนภาคบ่ายก็ยังไม่ได้เรียน
“นี้นายจะโดดเรียนหรอ ไม่น่าเชื่อ!!!” อิศเรนทร์เอามือกุมหัวท่าทางส่ายไปส่ายมาอย่างล้อเลียน ภูมิเองเห็นท่าทางวิทยาจะรีบเดินออกจากห้องสมุดก็รีบคว้าแขนไว้
“วิท นายจะโดดเรียนก็ไม่มีใครว่าหรอกนะ แต่นายลืมไปรึเปล่า ตอนบ่ายมีเรียนภาษาไทยกับ อาจารย์ลักขณา” พอภูมิพูดจบวิทยาได้แต่อึ้งพูดไม่ออกทำหน้าเหมือนนึกได้ก่อนจะเดินกลับมานั่งที่ตามเดิม
“โอ้โห! ภูมินายพูดอะไรจริงจังกับเขาเป็นด้วยแหะ ไม่น่าเชื่ออย่างงี้ได้ขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์แน่เลย ‘นายภูมิ กระพันชาตรี นักบาสฯไร้ชื่อ พูดอะไรจริงจังกับเพื่อนซี้’” คนพูดเสียงดังลืมดูว่าตัวเองอยู่ในห้องสมุดทำให้นายภูมิเตรียมตัวเข้าไปต่อยนายอิศเรนทร์ พูดอะไรไม่เข้าหู
“แก...” ภูมิเงื้อหมัดขึ้นเตรียมตัวต่อยไอ้คนพูดมากเต็มที่
“พวกเธอ ออกไปจากห้องสมุดเดี๋ยวนี้นะ!!” บรรณารักษ์ตะโกนมาอย่างเหลืออดทำให้พวกเขาจำใจออกจากห้องสมุดไป
“เดี๋ยวเรียนภาษาไทยแล้วเรียนอะไรต่อ” วิทยาพูดขึ้น ขณะเดินกลับห้องเรียน
“ก็มีเรียนศิลปะ” ภูมิช่วยตอบให้หลังจากซัดอิศเรนทร์ซะหมัดหนึ่ง
“โอเค” วิทยาพูดไว้แค่นี้ปล่อยให้ไอ้สองคนที่เหลือไม่เข้าใจในความหมาย
เมื่อพวกเขามาถึง ณ ห้องเรียนก็ทุกคนในห้องยังคงเฮฮาปาร์ตี้กันเช่นเคย เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทั้ง 3 เดินไปนั่งที่รอเวลาเรียน
“ลักขณามาแล้ว!!!” เพื่อนร่วมห้องคนหนึ่งรีบวิ่งมาอย่างรวดเร็วจนลืมคำนำหน้าชื่อของอาจารย์ซะนี้
ทั้งห้องเมื่อได้ฟังก็ตาลีตาเหลือกวิ่งเข้านั่งที่ เมื่ออาจารย์สาวเดินเยื้องย่างเข้ามา ทั้งห้องราวกับถูกน้ำแข็งเกาะไปตามทางที่อาจารย์เดิน ทั้งห้องเงียบเชียบอย่างสงบเสงี่ยม ทำให้เพื่อนข้างห้องต่างรู้ว่าอาจารย์สาวสุดโหดเดินเข้ามาแล้ว
“นักเรียน กราบ” หัวหน้าห้องบอกเสียงดังฟังชัด ทั้งห้องทำตามอย่างไม่มีขัดขืน
“วันนี้มีคนสายด้วยหรอ” อาจารย์สาวกวาดสายตามองไปที่นั่งที่ว่างเปล่าอย่างสงสัย ก่อนที่นักเรียนชะตาขาดกลุ่มหนึ่งจะมาถึง พร้อมกับลมหายใจที่หอบแฮ่กๆ
อาจารย์สาวโปรยยิ้มให้อย่างเย็นชาก่อนจะพูดชัดถ้อยชัดคำ “หัวหน้าห้องไปปิดประตูซิ”
หัวหน้าห้องทำตามอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทำให้ชั่วโมงมหาสนุกเริ่มขึ้นแล้ว...
ออด...
มันเป็นเสียงสุดสวรรค์ของชั่วโมงนี้ ทุกคนเริ่มทยอยออกจากห้องไปเรียนศิลปะชั่วโมงสุดท้ายของวัน เพียงแต่ชั้นเรียนนั้นขาดไปคนหนึ่ง
“วิทยามันไปไหน” ภูมิถามอิศเรนทร์อย่างสงสัยหลังจากเริ่มเรียนได้ไม่นาน
“เห็นมันแบกกระเป๋ากลับบ้านไปแล้ว ไม่น่าเชื่อคนอย่างไอ้วิทโดดเรียนเป็นด้วย”
คฤหาสน์หลังใหญ่ บ้านของวิทยา หลังจากที่วิทยากลับมาแล้ว ตรงรี่ขึ้นไปบนห้องนอนของเขา เปิดตำราพยายามหาสิ่งที่เขาต้องการอยู่นาน ก่อนจะพูดอะไรพึมพำออกมาเบาหลังจากได้รับคำตอบนั้น ควันสีขาวลอยขึ้นมาหลังหนุ่มผมดำ ก่อนที่สติจะดับวูบไป...
วันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2551
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น