วันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2551

บทที่1 จุดเริ่มต้นจากการโดนตู้ล้มทับ

บทที่1 จุดเริ่มต้นจากการโดนตู้ล้มทับ

“สวัสดีครับ ผมชื่อภูมิ กระพันชาตรีครับ เกรดการเรียนของผมก็คือ วิทย์3.5 เลข3.5 ภาษาอังกฤษ2.5 ภาษาไทย2 ครับ นี่คือเกรดของผมตอนม.2 นะครับ ส่วนนี่เพื่อนผม วิทยา ชัยชนะกุล เกรดเฉลี่ย4.00ครับ วันนี้เราจะนำเสนอเรื่อง...” เสียงนายภูมิ กระพันชาตรี เด็กหนุ่มวัย15 หน้าตาดี เพียงแต่ดีสู้คนข้างๆไม่ได้เท่านั้นเอง
นายวิทยา ชัยชนะกุล เป็นเด็กหนุ่มวัย15 หน้าตาดีจนถือว่าหล่อ นายนี่เป็นเด็กแว่นที่มีแฟนคลับทั้งรุ่นน้องรุ่นพี่มากที่สุดในรุ่นเดียวกัน ด้วยนิสัยรักเรียน แต่ก็มีข้อเสียคือทะเลาะกับนายภูมิเสียจนเสียภาพพจน์อยู่เรื่อย ในสายตาของเด็กหญิงบางคนเห็นอย่างนั้น ทำให้นายภูมิถูกเกลียดจากเหล่าเด็กหญิงพวกนั้น
“ประเทศอียิปต์ เอ่อ...” นายภูมิซึ่งเรียนไม่ค่อยเก่ง ความจำก็ไม่ดีจนทำให้ลืมคำพูดที่ต้องมารายงานหน้าห้องอยู่เรื่อย
“เอามานี่ ฉันรายงานเอง” วิทยาแย่งไมค์ออกมาจากมือของคนข้างๆก่อนจะเริ่มพูดต่อไปโดยไม่สนว่าคนข้างๆจะฉุนเพียงใด
“ขอจบการรายงานเพียงเท่านี้ครับ” เสียงปรบมือตามมารยาทของผู้ฟังที่ดีก็ดังขึ้นแม้ว่าเรื่องที่รายงานจะน่าเบื่อซักเพียงไร
“ดีมาก ครูไม่เคยฟังรายงานไหนดีเท่านี้เลย” คุณครูสาวกระดี๊กระด๊าเหมือนปลากระดี่ได้น้ำ พูดชมไม่ขาดปากก่อนบรรจงเขียนคำว่า Very Good ลงบนรายงานรวมเล่ม
“เอาเข้าไป แม้แต่ครูยังเป็นไปกับเค้า” นายภูมิพึมพำเบาๆ แต่ไม่รอดพ้นคนหูดี
“บ่นอยู่ได้ ตามวิทยาเขาไปนั่งที่ไป” ครูสาวพูดทั้งๆที่เมื่อกี้ยังชม ‘พวกเขา’ อยู่เลย ตอนนี้ภูมิชักเข้าใจมาตะหงิดๆแล้วว่า คนที่ครูชมมันคือเจ้าวิทยาคนเดียว...เซ็ง
ออด...
เสียงออดดังขึ้นเหมือนเสียงกระดิ่งสวรรค์ พอบอกลาครูสาวสุดกวนอวัยวะที่อยู่ล่างสุดแล้ว นายภูมิก็ตรงรี่จะลงไปเรียนพละ
“จะรีบไปไหน ค่อยๆไปก็ได้นี่” วิทยาพูดเอือมๆขณะหยิบของเก็บลงใต้โต๊ะอย่างเป็นระเบียบ
“เร็วหน่อยซิ ฉันอยากเรียนพละนะ” นายภูมิพูดกลับ ก็ช่วยไม่ได้คนมันอยากเรียนนี่
“เออ ฉันรู้ แกเก่งพละนี่หว่า”
“หึ” นายภูมิหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะพูดว่า “เห็นอย่างนี้แล้ว ฉันได้4วิชานี้นะเฟ้ย”
คำพูดของนายภูมิสร้างเสียงคิกคักจากเหล่านักเรียนหญิงที่แอบฟังพวกเขาอยู่
“เออลืมไป แกก็4เหมือนกันนี่หว่า” คนพูดอะไรไม่คิดยืนเกาหัวตัวเองดังแกรกๆ... ใช่สิ ไอ้วิทมันเก่งไปหมดนี่หว่า แต่ปีที่แล้วหาคนได้เกรดพละน้อยกว่า4ไม่ได้เลยนะ เค้าน่ะเก่งบาสฯเฟ้ย ต่อให้4.00ก็เถอะต้องมีอะไรซักอย่างที่มันไม่ได้เรื่องบ้าง

“สวัสดี นักเรียนทุกคน วันนี้เราจะเรียนกีฬาที่ชื่อบาสเกตบอลกันนะ กีฬานี้คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากมาย เพราะทุกคนคงรู้จักกันดีอยู่แล้ว แต่ก็คงต้องบอกอยู่ดีน่ะแหละ...”
น่าเบื่อ... ในความคิดของทุกคนไม่เว้นแม้แต่นายภูมิ
“เอ้า นักเรียนไปหยิบลูกบาสในโกดังมาซิ” ครูพละจอมพูดยืดยาวชี้นิ้วสั่งนายภูมิกับวิทยาให้ไปเอาลูกบาสให้เพื่อนๆหน่อย แม้ไม่อยากไปแต่ก็ต้องไป
ณ โกดังเก็บอุปกรณ์กีฬาที่แสนเก่าและสกปรก
“ลูกบาสอยู่ไหนเนี่ย” วิทยา ชัยชนะกุล หนุ่มหล่อสุดเพอร์เฟ็กต์ก็ยังทนต่อภาวะความสกปรกของโกดังเก็บของไม่ได้
“แกไปหาทางนั้นสิ” ภูมิรีบๆสั่งนายวิทยาให้ช่วยไปหาทางที่นิ้วของเขาชี้ไป
“อยู่ไหนเนี่ย” วิทยาเดินต่อซักสองสามก้าวก่อนจะสะดุดไม้กอล์ฟจนเซล้มไปชนกับตู้เก็บของ ก่อนที่ตู้เก็บของจะเปิดอ้าพ่นลูกบาสจำนวนมากออกมา ส่วนตัวตู้ก็ล้มไปชนกับตู้ต่อไป นายภูมิเห็นแล้วรู้สึกเหมือนเคยเล่น ก่อนจะรู้สึกตัวว่าตู้ที่ถูกดันลงมาจ๊ะเอ๋กับเขาพอดี
โครม!!
“เฮ้ย! ภูมิ” ด้วยความเป็นห่วงเพื่อนว่ามันจะตายอนาถจากการถูกตู้ล้มทับด้วยฝีมือของเขาเอง จึงรีบวิ่งไปหาคนที่อยู่ใต้ตู้ไม้เก่าๆ
“แกยังไม่ตายใช่มั้ย” วิทยาไม่พูดเปล่า พยายามเอามือแหวกตู้ไม้ที่แตกกระจายไม่มีชิ้นดี
“ยัง” นายภูมิโผล่ขึ้นมาจากซากไม้ หน้าผากโชกเลือด ความจริงแค่ตู้ไม้เขารับได้สบายๆถ้าไม่มีอะไรหล่นตุบใส่หัวเขาจนแตกซะก่อน
“บ้าจริง นั่นมันตกใส่หัวฉัน” ภูมิพูดพลางเอามือกุมหน้าผากโชกเลือดก่อนที่มืออีกข้างหนึ่งจะชี้ไปที่กล่องกระดาษ
วิทยาเดินไปเก็บกล่องขึ้นมาพินิจจนถี่ถ้วน พลิกซ้ายพลิกขวาสำรวจว่าของสิ่งนี้น่ะเหรอที่ทำให้นายภูมิจอมถึกหัวแตกได้ ที่หน้ากล่องกระดาษมีกระดาษแปะไว้ว่า ‘พัง’
“นี่แกโดนไอ้นี่เข้าไปจนหัวแตกเลยเหรอ” วิทยาถาม ใบหน้าคมหันมามองคนหัวแตกด้วยความสงสัย
“เออซิ” ถามมาได้ กล่องบ้าอะไรแข็งชะมัด
วิทยามองหน้าภูมิด้วยสีหน้าอึ้งๆก่อนจะพูดว่า
“กล่องเปล่า เนี่ยนะ”
“หา?” คนหัวแตกมองหน้านายแว่นราวจะกินเลือดกินเนื้อ
“นี่แกเอาสมองส่วนไหนคิดเนี่ย ฉันต้องโดนกล่องตอนที่มันยังมีของอยู่ซิเฟ้ย”
“เออ มันก็จริง” วิทยาพูดก่อนขยับแว่นมองหาของในกล่อง ดวงเนตรสีดำสอดส่องไปทั่วก่อนจะพบของอย่างว่า รูปร่างเป็นกล่องสี่เหลี่ยมสีดำ มีเข็มติดอยู่ที่ปลาย ในสายตาของวิทยา ไม่ว่ามองยังไงมันก็คือเครื่องเคาะสัญญาณเวลานี่หว่า
“ฉันจะพังมันทิ้ง!” ภูมิโมโหสุดๆที่หัวตัวเองต้องแตกเพราะไอ้เครื่องนี้
“เฮ้ย! อย่านะเฟ้ย ไปห้องพยาบาลไป” ออกปากตะโกนไล่ ทั้งที่คนตรงหน้าหัวแตกเพราะตนแท้ๆ
“ไปก็ไป” นายภูมิพูด ก่อนจะพยายามยันกายขึ้นจากกองเศษไม้ สายตาเหลือบไปเห็นกระดาษใบหนึ่ง “อะไรเนี่ย”
“ดาก คอนติเนนท์” ภาษาอังกฤษห่วยๆถูกส่งผ่านลำคอคนเจ็บ ทำให้นายวิทยาต้องหันกลับไปคว้าเศษกระดาษมาดู
“Dark Continent แค่คำง่ายๆแค่นี้อ่านไม่ออก”
“แล้วมันแปลว่าไรอ่ะ” คนถามยิ้มเหลอหลา เกาหัวแกรกๆ
“กาฬทวีปไง ในชั่วโมงสังคมก็เรียนแล้วไม่ใช่เหรอ” พูดไปพลางทำท่าเอือมๆ “แล้วแกไม่ไปห้องพยาบาลเหรอ?”
“เออใช่ ลืมไปเลย” นายภูมิพูด ทำหน้าแหยๆ วิทยาเห็นสภาพเพื่อนตัวเองแล้วก็ส่ายหัวเอือม ก่อนมือจะยื่นไปเก็บเครื่องเคาะสัญญาณเวลาใส่กล่องเพื่อเอาไปคืนห้องวิทยาศาสตร์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น